×
บทกลอนบทกวีนั้น ส่วนดีของมันก็คือสิ่งดี ส่วนเลวร้ายก็คือสิ่งเลวร้าย และหากเป็นการเผยแพร่สิ่งดี หรือสนับสนุนให้มีคุณธรรมจริยธรรมอันดีงามก็ควรได้รับการชมเชยและส่งเสริม แต่หากเป็นการด่าทอมุสลิม ดูถูกดูแคลนพวกเขา หรือชวนให้ฝ่าฝืนคำสั่งหรือให้ปฏิบัติตนไม่ดี ก็ควรได้รับการตำหนิ และเป็นสิ่งที่ท่านเราะสูลุลลอฮฺเตือนให้ระวัง เป็นบทความจากหนังสืออัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ ของ ดร.รอชิด อัล-อับดุลกะรีม

    บทที่กล่าวถึงบทกลอนบทกวี

    ] ไทย – Thai – تايلاندي [

    ดร.รอชิด บิน หุเสน อัล-อับดุลกะรีม

    แปลโดย : สะอัด วารีย์

    ตรวจทานโดย : ฟัยซอล อับดุลฮาดี

    ที่มา : หนังสือ อัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ, เว็บ al-islam.com

    2014 - 1436

    ما جاء في الشعر

    « باللغة التايلاندية »

    د. راشد بن حسين العبد الكريم

    ترجمة: سعد واري

    مراجعة: فيصل عبدالهادي

    المصدر: كتاب الدروس اليومية من السنن والأحكام الشرعية

    موقع الإسلام www.al-islam.com

    2014 - 1436

    ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ

    บทที่กล่าวถึงบทกลอนบทกวี

    อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสว่า

    ﴿ وَٱلشُّعَرَآءُ يَتَّبِعُهُمُ ٱلۡغَاوُۥنَ ٢٢٤ أَلَمۡ تَرَ أَنَّهُمۡ فِي كُلِّ وَادٖ يَهِيمُونَ ٢٢٥ وَأَنَّهُمۡ يَقُولُونَ مَا لَا يَفۡعَلُونَ ٢٢٦ إِلَّا ٱلَّذِينَ ءَامَنُواْ وَعَمِلُواْ ٱلصَّٰلِحَٰتِ وَذَكَرُواْ ٱللَّهَ كَثِيرٗا وَٱنتَصَرُواْ مِنۢ بَعۡدِ مَا ظُلِمُواْۗ [الشعراء : ٢٢٤، ٢٢٧]

    “และพวกกวีนั้น พวกหลงผิดจะปฏิบัติตามพวกเขา เจ้าไม่เห็นดอกหรือว่า แท้จริงพวกเขานั้นเร่ร่อนไปในทุกหนแห่ง และแท้จริงพวกเขานั้นพูดในสิ่งที่พวกเขาไม่กระทำ นอกจากบรรดาผู้ศรัทธาและปฏิบัติความดีทั้งหลายและรำลึกถึงอัลลอฮ์อย่างมาก และตอบโต้ป้องกันหลังจากที่พวกเขาถูกข่มเหง” { อัช-ชุอะรออ์:224-227 }

    ท่านอุบัยย์ บินกะอฺบ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่าว่า แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า

    « إِنَّ مِنَ الشِّعْرِ حِكْمَةً » [أخرجه البخاري]

    “แท้จริงในบทกลอนนั้นมีวิทยปัญญา” บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ

    ท่านอัล-บัรรออ์ บินอาซิบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่าว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวแก่ หัสสาน ในวัน(สงครามกับยิวเผ่า)กุร็อยเซาะฮฺ ว่า

    « اهْجُ المُشْرِكِينَ، فَإِنَّ جِبْرِيلَ مَعَكَ » [متفق عليه]

    “ท่านจงประพันธ์กลอนปรามาสพวกมุชริกเถิด เพราะญิบรีลก็อยู่ฝ่ายเดียวกับท่าน” บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺและมุสลิม

    ท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่าว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า

    « لَأَنْ يَمْتَلِئَ جَوْفُ رَجُلٍ قَيْحًا يَرِيهِ خَيْرٌ مِنْ أَنْ يَمْتَلِئَ شِعْرًا » [متفق عليه]

    “การที่คนๆหนึ่งให้ท้องของเขาเต็มไปด้วยอาเจียนจนเกิดผลร้ายกับมัน ยังดีกว่าการที่เขาจะให้มันเต็มไปด้วยบทกลอน” บันทึกโดยอัลบุคอรียฺและมุสลิม

    คำอธิบาย

    บทกลอนบทกวีนั้น ส่วนดีของมันก็คือสิ่งดี ส่วนเลวร้ายก็คือสิ่งเลวร้าย และหากเป็นการเผยแพร่สิ่งดี หรือสนับสนุนให้มีคุณธรรมจริยธรรมอันดีงามก็ควรได้รับการชมเชยและส่งเสริม แต่หากเป็นการด่าทอมุสลิม ดูถูกดูแคลนพวกเขา หรือชวนให้ฝ่าฝืนคำสั่งหรือให้ปฏิบัติตนไม่ดี ก็ควรได้รับการตำหนิ และเป็นสิ่งที่ท่านเราะสูลุลลอฮฺเตือนให้ระวัง

    ประโยชน์ที่ได้รับ

    · ในบทกลอนบทกวีต่างๆนั้น ก็มีบางบทที่ดี และบางบทที่น่ารังเกียจน่าตำหนิ

    · เตือนไม่ใช่จดจำบทกลอนบทกวีอย่างมากมาย โดยปล่อยให้ตัวเขาเองไม่มีการระลึกถึงอัลลอฮฺ หรืออ่านอัลกุรอานเลย